วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

ข้อคิดสะกิดใจ "ลิงกับลา"

หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง อาศัยอยู่คนเดียวด้วยความเหงานางจึงไปหาสัตว์มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัว คือ ลิงกับลา วันหนึ่งนางจะไปตลาดเพื่อหาซื้อกับข้าว ก่อนออกไปนางนำเชือกมาผูกคอลิง และผู้ขาลาทั้งสองข้าง เมื่อนางไปแล้ว ลิงก็แก้เชือกที่ผู้คอออก แถมใจดีแก้เชือกที่ขาของลาออกด้วย ด้วยความซุกซนลองก็ห้อยโหน รื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย ดึงเอาเสื่อผ้าของเจ้าของออกมาฉีกขาด บ้านรกรุงรังไปทั่ว โดยมีลายืนมองดูอยู่เฉย ๆ
เมื่อลิงเห็นเจ้าของกลับบ้าน เจ้าลิงรีบวิ่งไปหยิบเชือกมาผูกคอตัวเองไว้แล้วก็นั่งอยู่อย่างเรียบร้อย เมื่อเจ้าของบ้านกลับมาถึงบ้าน นางเห็นบ้านรกรุงรัง ข้าวของกระจัดกระจายเสียหาย นางโกรธมาก นางเหลียวดูว่าเป็นฝีมือของใคร เมื่อนางเห็นลิงยังอยู่ที่เดิม ส่วนเจ้าลายืนอยู่ นางวิ่งออกไปนอกบ้านคว้าไม้ด้ามใหญ่เข้ามาตีเจ้าลาหลายต่อหลายครั้ง ในฐานะที่ทำให้บ้านกลายเป็นกองขยะ ลาได้แต่ร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด....
ผู้อ่านทั้งหลาย.....
ท่านคงไม่ชอบตอนจบของเรื่องนี้นักเพราะสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำผิดอะไรแต่กลับถูกเจ้าของลงโทษอย่างหนัก ส่วนเจ้าลิงซึ่งเป็นตัวต้นเหตุกลับรอดพ้นและไม่ได้รับผลกรรมใดๆแต่ความจริงแล้ว เรื่องนี้ ต้องการชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ เจ้าลิงจอมซนเปรียบดั่งจิตใจของเรา ส่วนลาก็คือร่างกาย ลิงที่ซุกซนต้องการนั่นต้องการนี่สารพัด อยากทำอะไรก็ต้องได้ทำตามใจตน เปรียบเหมือนจิตใจของเราที่ไม่เคยรู้จักสงบนิ่ง คิดกระทำเรื่องไม่ดีมากมาย แต่ความลำบากทั้งหมดกลับตกแก่ร่างกายซึ่งไม่ใช่ผู้ก่อปัญหา ต้องรับเคราะห์กรรมเพราะอยู่ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เหตุที่ร่างกายของเราต้องเหน็ดเหนื่อยทรมานกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะ จิตใตของเรามัวแต่สร้างปัญหาอยากได้นั่นอยากได้นี่ อยากทำอย่างนั้น อยากทำอย่างนี้มีกิเลสฝังลึกอยู่ในจิตใจ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรปล่อยให้ลิงในใจแสดงความเหิมเกริมออกมาเช่นนั้น เราต้องควบคุมเจ้าลิง ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจห้ามไม่ให้เจ้าลิงแสดงตัวตนออกมา เพราะไม่เช่นนั้น ร่างกายก็จะทุกข์ทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ถ้าจิตใจของเราสงบ

ร่างกายของเราก็จะพลอยสบายและมีความสุขยั่งยืนได้ด้วย....(นิทานสีขาว.ดร.อาจอง ชุมสาย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น